แบบบ้านนอร์ดิกชั้นครึ่ง
แบบบ้านนอร์ดิกชั้นครึ่ง บ้านหลังคาจั่วลาดต่ำ เมื่อธรรมชาติรอบด้านช่างมีชีวิตชีวาและก็น่าคลั่งไคล้ การผลิตที่พักอาศัยขึ้นมา แม้มิได้มีการเชื่อมโยงด้านนอกไปสู่พื้นที่ข้างในอาจจะโชคร้ายเป็นที่สุด เนื่องจากสีเขียวจากก้านไม้ ใบต้นหญ้าแม้ว่าจะดูอย่างกับว่าเป็นส่วนประกอบนิดๆหน่อยๆแม้กระนั้นสามารถสร้างบรรยากาศให้การอาศัยน่าอภิรมย์รวมทั้งสุนทรีได้มากมายพรั่งพร้อม ซึ่งถ้าเกิดไม่มีธรรมชาติบ้านยังขาดชีวิตชีวาอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะใจรักธรรมชาติเป็นทุนเดิม เจ้าของบ้านก็เลยประสงค์ต้องการมีที่พักที่เป็นมิตรและก็กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเยอะที่สุด ถึงแม้ออกแบบด้านนอกจะมีความโมเดิร์นเอียงเอนไปทางนอร์ดิก แม้กระนั้นอุปกรณ์ที่ประยุกต์ใช้กรุฝาผนังเลือกเป็นงานไม้ ตีตามแนวราบให้มองเห็นลวดลายเศษไม้ของไม้ได้อย่างเห็นได้ชัด ก็เลยราวกับบ้านถูกหุ้มห่อด้วยความอบอุ่นอยู่ตลอด อีกทั้งช่วยลดเส้นความนำสมัยให้สุภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ตั้งหัวใจ

ทรงของหลังคาแนวจั่ว มีองศาค่อนข้างจะลาดต่ำ มุงด้วยสิ่งของสีแก่ เพื่อไม่ให้หลุดธีมจากสีของไม้ฝาผนังมากจนเกินความจำเป็น ซึ่งถ้ามองดูจากข้างๆจะมองเห็นทรงจั่วได้อย่างกระจ่างแจ้ง แต่ว่าเมื่อมองดู จากข้างหน้าเมื่อขับขี่รถเข้ามาสู่แปลงที่ดินนั้น จะไม่เห็นทรงของหลังคา อารมณ์ ราวกับบ้านกล่อง แนวยาวมากยิ่งกว่า หากแม้ไม่มีภาพการตกแต่งด้านในให้มองเห็น แม้กระนั้นก็เพียงพอทราบได้ว่าเน้นย้ำไปในธีมสีสว่าง เนื่องจากสิ่งที่มีความต้องการให้การอาศัยรู้สึกค่อยสบายในห้วงอารมณ์ สีขาวสว่างตัดกับสีน้ำตาลของไม้ ซึ่งได้เลือกเฉดสีให้อ่อนกว่าไม้ฝาผนังที่หุ้มห่ออยู่ด้านนอก
ดูได้ว่าฝาผนังชั้นสองจะยื่นออกมามากยิ่งกว่าฝาผนังด้านล่าง เพื่อช่วยป้องกันแดดรวมทั้งกันฝนสาด เนื่องแต่ฝาผนังในส่วนนี้จัดตั้งเป็นกระจกทั้งปวง การออกแบบให้มีส่วนยื่นส่วนเว้าจะใส่รับกับลักษณะภูมิอากาศมากเพิ่มขึ้น
ระเบียงไม้รวมทั้งหลังคา ที่ตีออกไปในโซนข้างหลัง เป็นหลักที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัว ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยไม่มีฝาผนังมากีดกัน อีกทั้งเรื่องของแสงสว่างและก็ลม รวมทั้งกลิ่นของความมีชีวิตชีวา
สำหรับบ้านท่ามกลางพื้นที่สีเขียว Lighting หรือแสงไฟ นับเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับในการช่วยสร้างบรรยากาศให้มองดูน่าพักมากยิ่งขึ้นได้ ดังเช่นว่า บ้านข้างหลังนี้เลือกใช้แสงสว่างสีวอร์ม เฉดสีส้มอุ่นๆที่กระจัดกระจายไปยังทุกส่วนของบ้าน เติมเต็มความอบอุ่น แล้วก็ช่วยลดความรู้สึกเด่นได้อย่างดีเยี่ยม เพราะไม่มีบ้านใกล้กันอยู่ใกล้ๆความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวบางทีอาจเกิดขึ้นได้ HOME
บ้านสไตล์นอร์ดิก
เสน่ห์ของความเฉียบคมที่หลายท่านหลงใหลในบ้านสไตล์นอร์ดิก ทำให้คนไม่ใช่น้อยยังคงมองหาแบบอย่างบ้านสไตล์นี้ เพื่อเก็บเอาไว้ก่อสร้างบ้านในฝัน ไม่ใช่แค่ที่เมืองไทยแค่นั้น ที่ประเทศออสเตรเลียก็มีคนรสนิยมเดียวกันอยู่ไม่น้อย ได้แก่บ้านข้างหลังนี้ที่อยู่ในท่ามกลางชุมชนที่มีบ้านก้อนอิฐบ้านก้อนอิฐแล้วก็บ้านย้อนยุคในเขตชานเมืองที่ดั้งเดิมที่สุดแห่งหนึ่งของแคนเบอร์รา คุณอาจไม่คิดว่าจะพบแนวหลังติดอยู่ทรงจั่วสูงของโรงนาสแกนดิเนเวียที่มองโมเดิร์นแถวนี้ ซึ่งพวกเรามั่นใจว่าหากคนใดกันผ่านถนนหนทางเส้นนี้มาจึงควรรู้สึกสะดุดตากับสิ่งที่จะเจอแน่ๆ
บ้าน Ainslie Modern Scandi ตั้งอยู่ใน Ainslie ซึ่งเป็นเขตนอกเมืองชั้นในที่กระปรี้กระเปร่าของแคนเบอร์รา เมืองหลวงของเครือจักรภพประเทศออสเตรเลีย เจ้าของบ้านมีความรู้สึกติดอกติดใจการออกแบบของสแกนดิเนเวีย และก็ใฝ่ฝันว่าจะก่อสร้างบ้านสไตล์นี้สักข้างหลัง ก็เลยสรุปออกมาเป็นบ้านที่มีส่วนประกอบของตึกหลังคาจั่วสูงเรียบง่ายไม่มีชายคาดูอย่างกับว่าโรงนา เส้นชัดแจ๋วนำสมัย อุปกรณ์ที่ใช้เว้นแต่ จะมีหลังคาเมทัลชีท เหล็ก กระจกที่ให้ความโมเดิร์นยังมีส่วนที่หุ้มห่อด้วยไม้ เพื่อตอบ ตอบสนอง ต่อบริบทนอกเมือง Ainslie อย่างเหมาะควร

บ้านมีชุดของบ้านที่เบือนหน้า ไปแนวทิศเหนือ-ใต้ปริมาณสี่ชุด ซึ่งเชื่อมต่อกันผ่านช่องว่างกึ่งกลางแล้วก็ทางเท้า เพื่อทุกตึกโดนแสงเท่าๆกัน แต่ละตึกจะมีทรงเช่นเดียวกันเป็นหลังคาจั่วแหลมสูงไม่มีชายคา ฝาผนังโปร่งๆเสมือน “ศาลา” ตึกทางซ้ายตกแต่งรูปข้างหน้าทำช่องหน้าต่างในห้องนอนเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมประกอบกับสามเหลี่ยมข้างบนล้อ ไปกับทรง ของบ้าน เสมือนมีบ้านเล็กๆซ้อนอยู่ในบ้านใหญ่มองสวยสะดุดตา เมื่อตกแต่งไฟที่กรอบบ้านยามค่ำยิ่งมองงามขึ้นไปอีก
ภายในของช่องหน้าต่างรูปบ้านทำเป็นเบย์วินโดว์นั่งพักผ่อนที่กรอบหน้าต่างได้ เมื่อยามตื่นมาตอนเข้าก็สามารถรับแสงสว่างรวมทั้งทิวทัศน์สนามและก็แนวต้นไม้ด้านนอกได้อย่างใกล้ชิดในทันที ช่องแสงสว่างที่เป็นสามเหลี่ยมข้างบนทำให้มุมมองของห้องนอนเปิดสูงมากขึ้นไปอีกกระทั่งมองเห็นถึงก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนฟ้า
เอกลักษณ์สไตล์ นอร์ดิก เว้นเสียแต่ ความไม่นิมอล เรียบง่าย
ไม่เกลื่อนกลาดหรือมองชุลมุน ย้ำการใช้แรงงาน ได้จริงแล้ว ยังอยู่ที่การใช้สีโทน ธรรมชาติ และก็การเปิดรับแสงสว่างที่ค่อนข้างจะมากมาย ด้วยเหตุว่าประเทศแถบ สแกนดิ เนเวียน มีความหนาวเย็นมากมาย โดนแสงสว่าง จากพระอาทิตย์ น้อย ในสมัยเก่าก็เลยก่อปิดทึบใส่ ช่องแสงสว่างน้อยๆเพื่อรักษาอุณหภูมิ ด้านใน แตกต่างจากยุค นี้ที่แปลงใส่ ฝาผนัง กระจกในพื้นที่ ออกจะกว้าง เพื่อดึงแสงสว่างธรรมชาติ เข้ามาสู่ตึก ได้มากขึ้น เพิ่มความอบอุ่น บรรเทา และก็เพิ่มเติมชีวิตชีวาให้กับตัวบ้านไม่มืดและก็ทึบ
อีกตึกหนึ่งที่ฝาผนังโปร่งใสเสมือนศาลาจะรวมห้องรับแขก ห้องครัว และก็พื้นที่กินข้าวไว้ร่วมกัน ดีไซน์มาเพื่อแบ่งปันบรรยากาศอันน่าทึ่งผ่านประตูกระจกที่ปฏิบัติหน้าที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติด้านนอก อีกทั้งต้นไม้ สนาม สระว่ายน้ำให้เป็นเสมอเหมือนพื้นที่ เดียวกันกับบ้าน ข้างในเต็มไปด้วย สิ่งของ สีธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น ไม้บนพื้น เพดานกรุไม้สีอ่อนตามแนวเพดาน ชุดเครื่องเรือน สร้างความอบอุ่น สะอาดตา และก็บรรเทา
กระจกสูงจากพื้น ถึงเพดาน ปูฝาผนังส่วนมาก ของศาลา ช่วยทำให้คุณแลเห็น ปลายแต่ละด้าน ของบ้าน พื้นที่ด้านนอกแปลงเป็นห้องที่โล่งแจ้ง ที่ใช้งานได้จริง งดงาม แล้วก็น่าสนใจดวงใจ วิธีการทำฝาผนังที่เปิดออกได้กว้างช่วยระบายอากาศ รับลม ยังมีผลให้กำเนิดความเกี่ยวข้องด้านในและก็ด้านนอก ซึ่งมีความหมาย มากมายสำหรับการดีไซน์ข้างในแล้วก็ยังสนองตอบต่อลักษณะอากาศของแครนเบอร่า ที่หน้าร้อนจะมีอากาศอุ่นถึงร้อน แต่ว่าหน้าหนาวที่มีอากาศเย็นถึง 0 องศา และก็ยังมีปริมาณน้ำฝนทุกปีเฉลี่ย 629 มิลลิเมตร ที่ตกกระจายทั่วๆไปตลอดทั้งปี
ในเมืองหนาวแม้ว่าจะมีแสงสว่างจากข้างๆครั้งคราว ก็ยังไม่พอ นักออกแบบก็เลยใส่ช่องแสงสว่างบนหลังคาเป็น skylight เปิดให้แสงสว่างสามารถไปสู่ตัวบ้านได้จากข้างบนในตอนที่บ้านอยากได้ ยกตัวอย่างเช่น เคาน์เตอร์ห้องครัว มุมนั่งพักผ่อน ซึ่งตรงจุดนี้แม้ประยุกต์ใช้ในบ้านไทยๆที่แสงอาทิตย์จัด จะมีผลให้บ้านร้อนจนถึงราวกับอยู่ในเตาอบ บ้าน
การผลิตบ้านสไตล์นอร์ดิกในประเทศเมืองที่มีอากาศร้อน จำต้องปรับปรับใช้ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต เนื่องจากบ้านเรือนหนาวจะมีส่วนประกอบบ้านที่รับแสงสว่างได้มาก ถ้าหากประยุกต์ใช้เสมือนเป๊ะทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ไตร่ตรองความเหมาะสมจะก่อให้บ้านร้อนจนกระทั่งอยู่ป่วยไข้ ส่วนหลังคาที่ไม่มีชายคายังมีผลให้บ้านไม่มีชายคาปกป้องรักษาฝาผนัง จนกระทั่งกำเนิดเป็นความเปียกชื้นสะสมรังควานฝาผนังได้ ก็เลยต้องหาแนวทางคุ้มครองฝาผนังด้านที่จะต้องสัมผัสกับฝน การปกป้องคุ้มครองความร้อนไปสู่ตัวบ้านจากกระจกด้วยการเลือกสิ่งของที่เหมาะสมกับลักษณะอากาศลดร้อนลดเปียกชื้น
บ้านนอร์ดิกผสมลอฟท์
“ต้องการอยู่บ้านตลอด” เป็นความรู้สึก ของเจ้าของบ้านภายหลังสร้างเสร็จ ซึ่งเป็นไปตามตั้งมั่นไว้ตั้งแต่กระบวนการดีไซน์ว่าต้องการทำบ้านข้างหลังนี้ให้ออกมาดีที่สุด เป็นเสมือนบ้านในฝันเยอะที่สุด บ้านที่อยู่ได้ทุกวันแบบไม่มีทางเบื่อ สำหรับสไตล์ของบ้านข้างหลังนี้เป็นการผสมคุณลักษณะเด่นของบ้าน 2 สไตล์เข้าไว้ร่วมกันเป็นสไตล์นอร์ดิกรวมทั้งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ที่เอามาเคล้ารวมกันได้อย่างพอดี ทำให้บ้านมีทั้งยังความเฉียบคม อบอุ่น แล้วก็ความดิบเท่อยู่ร่วมกัน กำเนิดสไตล์ใหม่ๆที่น่าดึงดูด
บ้านข้างหลังนี้สร้างอยู่ในประเทศไทยของพวกเรานี่เอง ผู้ครอบครองเป็นคุณ พื้นที่ใช้สอยรวมเบ็ดเสร็จราว 145 ตำรวจม ส่วนค่าก่อสร้างรวมเครื่องเรือนคงจะราว 2.5 ล้านบาท สำหรับวางแบบข้างหน้าเด่นด้วยเส้นสไตล์นอร์ดิกเห็นกระจ่างๆจากทรงของบ้าน ที่เป็นสามเหลี่ยมทรงสูง หลังคาสิงเกิ้ล (Shingle Roof) แผ่นเรียบไม่มีชายคา แม้กระนั้นอุปกรณ์ที่พรีเซ็นท์อารมณ์ของตัวบ้านตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ อย่างฝาผนังปูนเปลือยขัดมันสลับก้อนอิฐโชว์แนว เน้นย้ำสีโทนดำ น้ำตาล เทา ตกแต่งรอบๆจั่วด้วยงานไม้เพิ่มมิติทางสายตางามๆและก็ยังช่วยตัดทอนความดิบแข็งของคอนกรีตลงอย่างสมดุล
ส่วนประกอบหลักของบ้านมีเหล็ก คอนกรีตขัดมัน ก้อนอิฐ รวมทั้งไม้ ส่วนพื้นที่ดำเนินชีวิตสำคัญๆรอบๆห้องรับแขกวางแบบเป็นโถงสูง Double Space ให้ความรู้ความเข้าใจสึกโปร่งเตียนโล่ง ซึ่งเป็นเยี่ยมคุณลักษณะเด่นของสไตล์ลอฟท์ รุมล้อมด้วยฝาผนังก้อนอิฐแดงสูงสองเท่าโชว์ผิวแบบสัจจะอุปกรณ์ แทรกด้วยประตูหน้าต่างกระจกเพิ่มความโปร่งสบายค่อยให้บ้าน แล้วก็ปฏิบัติหน้าที่ดึงแสงสว่างธรรมชาติไปสู่บ้าน

บนฝาผนังจะมองเห็นท่อเหล็กที่ร้อยสายไฟเอาไว้ภายในย้ำความโก้แบบโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับในการตกแต่งห้องนี้ใส่ร้ายคลาสสิคกับพัดลมวินเทจ ผสมตู้ไม้ยาวสไตล์โมเดิร์น เสริมความเก๋าผสมหรูกับชุดโซฟาหนังแท้ที่ยิ่งใช้ยิ่งงาม
ด้วยความสูงจากพื้นถึงหลังคา
ทำให้สามารถแบ่งแยกพื้นที่เป็นชั้นสองมีแผ่นคอนกรีต และก็ส่วนประกอบเหล็ก รองรับ เมื่อแหงนหน้ามองดูข้างหลัง ค้างโชว์ส่วนประกอบเหล็กเป็นแถวเรียงกันไป รวมทั้งสิ่งของไม้อัด OSB ซื่งจะใช้คู่กับหลังคา Shingle Roof มุมห้องครัวมองเข้มขรึมกับโทนสีแล้วก็สิ่งของที่ใช้สีดำ รวมทั้งน้ำตาลเป็นหลัก เพิ่มเติมมิติทางสายตา ด้วยไฟสีวอร์ม ให้บรรยากาศเสมือนคาเฟ่หรือผับในเวลากลางคืน แบบบ้านโมเดิร์น ยกพื้น
โทนสีเทาของปูนขัดมัน ให้บรรยากาศ สงบ แต่ว่าดิบแข็งกระด้าง ถ้าเยอะเกินไปอาจจะส่งผลให้รู้สึกถึงความแข็งแรงแข็งกระด้างที่ชักชวนให้อึดอัดได้ ในห้องนอน ที่อยากความรู้สึก นุ่มนวล และก็บรรเทา เยอะขึ้น ก็เลยเลือกใช้สีขาวทาฝาผนังโชว์แนวเหนือหัวเตียง ผ้าม่านใช้สีเทา เตียงแล้วก็ตู้เลือกงานไม้สีอ่อนๆกับชุดที่นอนหมอนมุ้งสีเบจ เทา และก็น้ำตาล ฝาผนังกระจกขนาดใหญ่ ติดม่าน 2 ชั้น ชั้นนอกโปร่งๆสีขาวชั้นในสีเทาเลือกระดับความทึบตามถูกใจ อีกทั้งสีรวมทั้งอุปกรณ์สร้างบรรยากาศ ช่วยทำให้การนอนเต็มไปด้วยความรู้สึกละมุนรวมทั้งสบายในสไตล์นอร์ดิก
สุขาสองห้องก็เลือกตกแต่งโดยพรีเซนเทชั่น เรื่องของสี แสงสว่าง และก็อุปกรณ์สลับอารมณ์ กันระหว่าง ความเข้มดุเดือด ดิบ เปลือย สไตล์อินดัสเทรียล-ลอฟท์ และก็ความสว่าง สะอาด โปร่งตา มองอบอุ่นนุ่มนวลแบบนอร์ดิก ในบ้านหนึ่งข้างหลังก็เลยมีครบทุกอารมณ์ ถูกใจอะไร ก็ใส่ลงไปในบ้านให้หมด ไม่ต้องแอบชอบ พี่เสียดายน้อง Phuket Villas
shingle roof หรือสิ่งของมุงหลังคา เป็นอุปกรณ์ใหม่ๆที่ฉาบหน้าด้วยยางมะตอย ประเภทหนึ่ง ทำจากแผ่นเส้นใยที่มีความแข็งแรงสูง ลักษณะเป็นแผ่นผิวเรียบ การตำหนิดตั้ง จะต้องมีตัวแผ่นรองหรือดูดซับรูฟ (Sub Roof) ปฏิบัติภารกิจคุ้มครองป้องกันน้ำฝน แล้วก็ช่วยค้ำรองรับ แผ่นผืนยาง มะโคนย อุปกรณ์ที่นิยมใช้เป็นไม้อัด OSB ฯลฯ จุดเด่นของ shingle roof มีหลากลาย เป็นต้นว่า สามารถ ประดิษฐ์ ทรงหลังคา ได้หลายแบบ กับบ้านได้หลากสไตล์ แพงถูกเทียบกับหลังคาจำพวกอื่นๆแม้กระนั้นในส่วน ของการถ่ายเทอากาศ shingle roof แก่อยู่ได้ราว 20 ปี รวมทั้งในพื้นที่ฝนตกชุกหลังคาจะดูดซึมความชุ่มชื้นได้ดิบได้ดีกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเชื้อราได้ง่าย